วันเสาร์, กรกฎาคม 06, 2556

Crab With Indian Curry Stir Fry


สูตรผัดผงกระหรี่ปู

ส่วนประกอบ

ปูสด                                    450 กรัม/g. หรือประมาณ 2 ตัว ( Fresh Crabs)
ผงกระหรี่                                 1 ช้อนโต๊ะ/Table spoon ( Indian Curry Powder)
ไข่ไก่                                       1 ฟอง( Egg)
นมสด                                  1/4 ถ้วย /Cup (Fresh Milk)
น้ำสะอาด                            1/4 ถ้วย/Cup (Drinking Water)
น้ำปลา                                1 1/2ช้อนโต๊ะ/Table Spoons (Fish Sauce)
น้ำตาลทราย                           1 ช้อนชา /Teaspoon (Sugar)
น้ำพริกเผา                           1/2 ช้อนโต๊ะ/Table Spoon (Chilly Paste)
น้ำมันน้ำพริกเผา                     1 ช้อนชา/Tea Spoon (Chilly Paste Oil)
กระเทียมกลีบใหญ่ (Mince Garlic)
ต้นหอมหันท่อน   (Spring Onion)
คื่นไฉ่หั่นท่อน   (  Chinese Parsley)
หอมหัวใหญ่ (Onion)  (ใส่ไม่ใส่ก็ได้ สูตรที่ให้มาไม่ใส่เพราะคนที่กินจานนี้ไม่ชอบหอมหัวใหญ่)

วิธีทำ
แกะปูเอาส่วนที่สกปรกและไม่จำเป็นออกไป ล้างให้สะอาดโดยล้างผ่านน้ำด้วยตระกร้ามีรูถี่ๆ เมื่อล้างสะอาดแล้วพักให้สะเด็ดน้ำ มาเตรียมผักและน้ำปรุงรส ล้างต้นหอม คื่นไฉ่ให้สะอาดหั่นเป็นท่อน 

วิธีทำน้ำซอสปรุงรสสำหรับผัด  ใส่ไข่ลงไปในชามผสม เติมน้ำพริกเผาและผงกระหรี่ลงไป ตีให้เข้ากัน แล้วเติมนมสดลงไป 

ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง เติมน้ำมันพืชลงไปประมาณ2-3 ช้อนโต๊ะ ใส่กระเทียมสับลงไป เมื่อเริ่มส่งกลิ่นหอม ให้นำกระดองปูและเนื้อปูลงไปผัด พอเริ่มจะสุก ให้ใช้ตะหลิ่วพักปูในกระทะด้านข้าง เว้นพื้นที่ส่วน น้ำมันพืชที่ยังร้อน ให้เทน้ำซอสปรุงรสลงไป แล้วเอาปูลงมารวมแล้วผัดไป เติมน้ำสะอาด และปรุงด้วยน้ำปลาและน้ำตาลทราย ราดด้วยน้ำมันน้ำพริกเผาลงไป เติมต้นหอม และคื่นไฉืหั่นท่อน ตักใส่ชามพร้อมเสิร์ฟ



#ปูที่เลือกซื้อเลือกตัวเมีย น้ำหนักแน่น ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า มีไข่มาก เวลาผัดจะให้รสชาติที่เนื้อหวาน หอม อร่อย อย่าเลือกซื้อปูตัวเมียที่น้ำหนักเบาเนื้อกลวง มีกลิ่นเหม็นเน่า เพราะคุณจะเสียเงินโดยไม่ได้กลับคืน และอาหารที่จะนำมาปรุงก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเนื้อกลวง เอามาทำอะไรก็ไม่ได้รสค่ะ

## เลือกซื้อผงกระหรี่ ต้องเลือกที่มีส่วนผสมของเครื่องเทศชั้นดี เพราะนี้เป็นส่วนผสมสำคัญอย่างหนึ่ง

ได้ปูสด ผงกระหรี่ดี ฝีมือแบบไหนก็ปรุงได้อร่อยค่ะ

ภาพและสูตรโดย

Pimthika S. [Photo &Recipes]

ไม่มีความคิดเห็น: